วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

แฮกึ๊น(อาหารจีน)

แฮกึ๊น(อาหารจีน)
      
ส่วนผสมที่ใช้ทำแฮกึ๊น 
- กุ้งชีแฮ 1 กิโล
- เกลือ 1 ช้อนชา
- มันหมู (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ) 1 ขีด
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- รากผักชี (โขลก) 2 ช้อนชา
- กระเทียม (โขลก) 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสิงคโปร์ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ไข่เป็ด 1 ฟอง
- แผ่นฟองเต้าหู้ 1 แผ่น
- น้ำมัน (สำหรับทอด)
  วิธีทำ
1. ล้างกุ้ง เด็ดหัว ปอกเปลือก ผ่าหลังชักไส้ออก ผึ่งให้แห้ง นำไปสับ หรือหั่นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปโขลกให้ละเอียด โดยใส่เกลือลงไปด้วย
2. มันหมู รากผักชี กระเทียม พริกไทย แป้งสาลี แป้งสิงคโปร์ ไข่ น้ำตาลทราย นำไปผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. จากนั้นนำส่วนผสมทั้งสองอย่าง มานวดให้เหนียวเข้ากัน
4. ขั้นต่อมาแผ่นฟองเต้าหู้ นำไปวางบนผ้าขาวบางที่ชุบน้ำหมาดๆ พอเริ่มนิ่ม ให้ตัดออกเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้า
5. ตักส่วนผสมวางลงบนฟองเต้าหู้ ตามยาว ให้เท่ากันตลอดแนว ม้วนแผ่นเต้าหู้ครึ่งนึงก่อน แล้วพับหัวท้ายไว้ข้างใน แล้วม้วนต่อห่อไส้ให้มิดชิด
6. ตั้งรังถึงนึ่ง นำใบตองมาเรียง นำแฮกึ๊นลงเรียง ให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว นึ่งน้ำเดือด ไฟแรง 10 นาที นำออกมาพักไว้ให้เย็น แล้วหั่นตรงเป็นชิ้นๆ หนาประมาณ 1/2 ครึ่งนิ้ว
7. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ไฟแรง พอร้อนน้ำแฮกึ๊นลงทอด จนเหลือง ตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน เรียงลงจาน แกล้มด้วยผักแตงกวา ตกแต่งตามชอบ รับประทานกับน้ำจิ้มบ๊วย

ข้าวผัดกุ้ง

ข้าวผัดกุ้ง
  ส่วนผสมที่ใช้ทำข้าวผัดกุ้ง 
- ข้าวสวย (สุก แบบไม่แฉะ) 3 ถ้วย
- กุ้งชีแฮ 2 ขีด
- หอมใหญ่ 1 หัว
- มะเขือเทศ 1 หัว
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- แตงกวา (ผ่าครึ่งหั่นเฉียง) 1 ลูก
- กระเทียม (แกะเปลือกแล้วทุบพอหยาบ)
- น้ำปลา
- น้ำตาลทราย
- น้ำมันพืช
- ต้นหอม
- ผักชี
- พริกไทยป่น- มะนาว

   วิธีทำ
1. กุ้งแกะเปลือก ผ่าหลัง ชักไส้ออก ล้างให้สะอาดพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ หั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ
2. ตั้งไฟใส่น้ำมันเล็กน้อยลงกระทะ พอร้อน นำกระเทียมลงเจียวให้เหลืองหอม ใส่กุ้งลงผัดตาม พอสุกใส่ข้าวลงไป ผัดให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทรายเล็กน้อย ใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศตามลงไป ผัดให้เข้ากันตักใส่จาน
4. กันข้าวที่ผัดไว้ข้างกระทะ เติมน้ำมันเล็กน้อย ตอกใข่ลงไป คน ยีๆ ให้พอแตก พอเริ่มสุกให้ตักข้าวที่กันไว้ลงมาผัดโดยเร็ว ให้ไข่สุกทั้วและจับกันทั่วเม็ดข้าว ตักใส่จานโรยหน้าด้วยผักชี พริกไทยป่น
5. ทานแกล้มกับผัก เช่นแตงกวา ต้นหอม ปรุงรสระหว่างรับประทานด้วย มะนาว น้ำปลาพริก หรือซอสแม๊กกี้ตามชอบ

ห่อหมกเสวย

ห่อหมกเสวย
 
ส่วนผสมที่ใช้ทำห่อหมกเสวย
- พุงและไข่ปลา 5 พวง
- เนื้อกุ้ง 1 ขีด
- เนื้อปู 1 ขีด
- เนื้อไก่ 1 ขีด
- ถั่วลันเตา (แกะเอาแต่เม็ด ต้มให้สุก) 3 ขีด
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกไทย 7 เม็ด
- กระเทียม (หัวใหญ่) 7 กลีบ
- ผักชี 7 ต้น
- ใบมะกรูด (หั่นฝอย) 3 ใบ
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 3 เม็ด
- ข่า (หั่นแว่น) 3 แว่น
- ตะไคร้ (ต้นเล็กหั่นละเอียด) 3 ต้น
- กะปิ 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- มะพร้าวขูด 1 กิโลฯ
- น้ำปลา
- น้ำตาล
  วิธีทำ
1. เอาเนื้อกุ้ง ปู ไก่ มาสับรวมกันให้ละเอียด แล้วนำลงครก โขลกพร้อมถั่วลันเตา โขลกให้เข้ากัน จนเหนียว ตักพักไว้
2. พริกแห้งแช่น้ำ พอนิ่มให้ฉีก แกะเอาเม็ดออกทิ้ง เอาเนื้อใส่ครก ตามด้วย เกลือ พริกไทย กระเทียม รากผักชี ข่า ตะไคร้ กะปิ ตำรวมกันให้แหลกละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
3. มะพร้าว คั้นเอาน้ำกะทิ เอาข้นๆ (แบ่งไว้โรยหน้า 1/2 ครึ่งถ้วย) นำไปผสมกับเครื่องแกงที่โขลกไว้ ตอกไข่ตามลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนื้อที่โขลกรวมกันไว้ลงไป
4. เมื่อกวนเข้ากันดีแล้ว ใส่พุงปลา และปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล กวนเบาๆให้เข้ากัน ตั้งพักไว้
5. เย็บใบตองให้เป็นกระทง ใส่ผักรองลงไปที่ก้นกระทง (ใช้ใบมะตูมอ่อน หรือ ใบยอ หรือใบโหระพาก็ได้) จากนั้นตักห่อหมกหยอดลงไปให้เต็มกระทง โดยให้มีพุงปลาแต่ล่ะกระทงด้วย
6. หยอดกะทิที่หน้า และโรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย ผักชี(หรือพริกหั่นฝอย) โรยหน้าทุกกระทง ยกเข้าไปนึ่งในรังถังนึ่งที่น้ำเดือน นึ่งจนสุกยกเสิร์ฟ

ซี่โครงหมูย่าง

ซี่โครงหมูย่าง
ส่วนผสมที่ใช้ทำซี่โครงหมูย่าง 
- ซี่โครงหมู (มีเนื้อติด) 5 ชิ้น
- กระเทียมโขลก 1 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชีโขลก 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/2 ครึ่งช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 1/2 หนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชาฃ
- เหล้า 1 ช้อนโต๊ะ
   วิธีทำ
1. ซี่โครงหมูนำไปล้างให้สะอาด แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. ผสมเครื่องหมักทุกอย่างเข้าด้วยกัน นำลงไปคลุกเคล้ากับซี่โครงหมู ใช้มือทาๆ บีบๆ ให้ส่วนผสมเข้าเนื้อ แล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 2-3 ชั่วโมง
3. ก่อถ่านตั้งไฟ แรงปานกลางๆ นำหมูลงปิ้ง ค่อยๆกลับไปมา พอให้เหลืองอ่อน
4. ยกหมูลง ใช้ขี้เถ้ากลบไฟให้อ่อนๆ นำใบตองรอง 3-4 ชิ้น นำหมูลงลบใบตอง และปิดหน้าด้วยใบตองอีก 1-2 ชิ้น
5. ย่างไฟอ่อนๆต่อจนเหลืองแห้ง เป็นอันใช้ได้ ยกเสิร์ฟเป็นชิ้นใหญ่ๆ หรือหั่นเป็นชิ้นๆ ทานคู่แตงกวา หรือต้นหอม

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
  ส่วนผสมที่ใช้ทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 
- ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 3 ขีด
- เนื้ออกไก่ (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1 ขีด
- ปลาหมึกแช่ (หั่นชิ้น) 4-5 ชิ้น
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ตังฉ่าย 2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซิอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- ต้นหอม (ซอย) 1 ต้น
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชี
- ผักกาดหอม (ใช้รองจาน)
  วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง พอกระทะร้อน ราดน้ำมันลงไปให้ทั่ว ใส่ปลากหมึกแช่ ลงผัด แล้วตามด้วยไก่ ผัดคลุกให้สุก
2. ตอกไข่ใส่ลงไป คลุกๆให้เข้ากันแล้วตามด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยว ตังฉ่าย ผัดคลุกให้เข้ากันจนไข่และเส้นสุกทั่ว
3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทราย ผัดคั่วต่อสักครู่ให้เส้นเหลืองหอม เป็นอันใช้ได้
4. จานรองด้วยผักกาดหอม ตักคั่วไก่ลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี ยกเสิร์ฟ รับประทานได้เลย หรือจะทานคู่กับซอสพริกก็อร่อย

กระดูกหมูจี๊ดจ๊าด (อบ)

กระดูกหมูจี๊ดจ๊าด (อบ)
  ส่วนผสมที่ใช้ทำกระดูกหมูจี๊ดจ๊าด (อบ)
- ซี่โครงหมู 500 กรัม
- นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงขมิ้น 1 1/2 หนึ่งช้อนชาครึ่ง
- พริกไทยดำ (ป่น) 1 1/2 หนึ่งช้อนชาครึ่ง
  วิธีทำกระดูกหมูจี๊ดจ๊าด (อบ) 
1. ซี่โครงหมูล้างน้ำให้สะอาด ตากพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. ผสมเครื่องปรุงรสทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วนำไปคลุกกับซี่โครงหมูให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
3. นำซี่โครงหมูที่หมักไว้ เข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียล ประมาณ 30 - 40 นาที (จนกว่าจะสุก) นำออกจากเตา จัดเสิร์ฟ

ยำกุนเชียง


ยำกุนเชียง
  ส่วนผสมที่ใช้ทำยำกุนเชียง 
- กุนเชียง 2 แท่ง
- พริกขี้หนู (โขลกละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม (โขลกละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือเทศ (ผ่าสี่เฉือนไส้ออก หั่นชิ้นบางๆ) 1 ลูก
- หอมแดง (หั่นเสี้ยวบางๆ) 1 หัว
- แตงกวา (ปอกเปลือก ผ่าครึ่งหั่นเป็นชิ้นๆ) 2 ลูก
- พริกขี้หนูสวน (หั่นเป็นท่อนเล็กๆ) 1 ช้อนโต๊ะ
- ขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อน ขนาดประมาณ 1 นิ้ว) 2 ต้น
- น้ำมันพืช 1 ถ้วย
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ครึ่งช้อนชา
- น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ
  วิธีทำ
1. ตั้งไฟใส่น้ำมัน (ใช้ไฟอ่อน) หั่นกุนเชียงแบบแฉลบ เป็นชิ้นๆ นำลงทอด (หมั่นคนตลอดเวลา) จนสุกเหลือง นำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
2. นำน้ำมะนาว น้่ำปลา น้ำตาล ลงอ่างผสม คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย จึงใส่น้ำกระเทียมดองคนพอทั่ว
3. จากนั้นนำกุนเชียง หอมแดง แตงกวา มะเขือเทศ พริกขี้หนู กระเทียม พริกขี้หนูสวน และขึ้นฉ่ายลง แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว ตักใส่จาน ยกเสิร์ฟ

แกงฮังเล

แกงฮังเล
        แกงนี้เป็นอาหารพื้นบ้านของทางภาคเหนือ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศพม่า รสชาติจะออก หวาน-เค็ม นับว่าเป็นอาหารที่มีสรรพคุณสูง และอร่อยมากเลย ::
  ส่วนผสมที่ใช้ทำแกงฮังเล 
- เนื้อหมู กับ หมูสามชั้น (รวมกัน) 1 กิโลฯ
- มะพร้าว 1 กิโลฯ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 8 เม็ด
- ลูกกระวาน 6 ผล
- ลูกผักชี 1 ช้อนชา
- พริกแห้ง 12 เม็ด
- ขิง 5 แว่น
- ข่า 3 แว่น
- กระเทียม
- หอมแดง
- ลูกยี่หร่า
- น้ำปลา
- น้ำมันหมู
   วิธีทำ
1. นำเนื้อหมู และหมูสามชั้นไปล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม หนาประมาณ 2 นิ้ว แล้วใส่ชามพักไว้
2. นำมะพร้าวไปคั้นในน้ำอุ่น แยกหัวกะทิไว้ต่างหาก และส่วนนึงเทลงไปผสมกับเนื้อหมูเล็กน้อย จากนั้นเติมน้ำปลา น้ำตาลทราย ให้พอมีรสชาติ คลุกเคล้าให้เข้ากับเนื้อ จากนั้นนำไปหมักแช่ในตู้เย็น 30 นาที
3. คั้นน้ำกะทิต่อ จนได้กลาง และหางกะทิ นำไปใส่หม้อตั้งไฟอ่อนให้เดือด แล้วนำเนื้อที่หมักไว้ใส่ลงไป คนเบาๆให้ทั่ว เคี่ยวไฟอ่อนไปเรื่อยๆจนเนื้อเปื่อย
4. ระหว่างนั้น พริกแห้งแกะเม็ดออกให้หมด แล้วนำไปทอดในน้ำมันให้กรอบตักพักไว้
5. ลูกกระวานทุบแล้วแกะเอาแต่เนื้อ จากนั้นนำพริกไทย ขิงหั่น ลูกผักชี ลูกยี่หร่า ลงไปคั่วในกระทะใช้ไฟอ่อน คั่วไปเรื่อยๆจนหอม จากนั้นนำใส่ครก ปอกเปลือกหอมแดง กระเทียม และเครื่องแกงทั้งหมดลงโขลกให้ละเอียด
6. นำหัวกะทิที่คั้นแยกไว้ ลงกระทะตั้งไฟเคี่ยว จนกะทิแตกมัน ตักน้ำพริกในครกที่ตำไว้ลงผัดให้หอมไปแปดบ้าน จากนั้นตักทั้งหมดใส่ลงในหม้อที่เคี่ยวเนื้อหมูไว้ คนให้ทั่ว ปรุงรสเพิ่มเล็กน้อยด้วยน้ำปลา ชิมให้รสชาติออกหวาน-เค็ม
7. เคี่ยวไปเรื่อยๆ เติมหางกะทิลงไปจนน้ำพริกจับเข้ากับเนื้อหมูดี แล้วเติมกลางกะทิอีกครั้ง เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆจนเดือด เป็นอันเสร็จ ตักใส่จานยกเสิร์ฟ

ครองแครงกรอบ

ครองแครงกรอบ
  ส่วนผสมที่ใช้ทำขนมครองแครง 
- แป้งหมี่ (แป้งสาลี) 1 กิโลฯ
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- น้ำตาลปี๊ป 1 1/2 หนึ่งกิโลฯครึ่ง
- มะพร้าว (ขูด) 1 1/2 หนึ่งกิโลฯครึ่ง- เกลือป่น 1/2 ครึ่งช้อนชา
- น้ำมันหมู

  วิธีทำ
1. นำมะพร้าวไปคั้น จนได้หัวกะทิ นำแป้งใส่อ่างผสม แหวกตรงกลางให้เป็นรู เทหัวกะทิลงไป 1 ถ้วย น้ำเปล่า 2 ถ้วย ไข่ไก่ 3 ฟอง แล้วนวดเคล้าให้เข้ากัน
2. พอเข้ากันดีแล้ว นำแป้งไปคลึงที่พิมพ์ครองแครง จนหมด พักแป้งผึ่งไว้ให้แป้งหมาด
3. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันหมู ให้น้ำมันเดือด เอาตัวครองแครงลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ตั้งกระทะทองเหลือง ใช้ไฟอ่อน เทน้ำตาลลงไป น้ำเปล่าเล็กน้อย เคี่ยวจนน้ำตาลละลายเป็นข้นเป็นยางมะตูม ใส่เกลือลงไป คนให้เข้ากัน
5. เอาตัวครองแครงลงไปคลุมเคล้ากับน้ำตาล ค่อยๆคนให้ทั่วและแห้ง จึงยกลงพักไว้ รับประทานได้เลยหรือผึ่งไว้ให้หายร้อนใส่โหลไว้รับประทานได้นาน

หอยแมลงภู่ผัดฉ่า

หอยแมลงภู่ผัดฉ่า
 ส่วนผสมที่ใช้ทำหอยแมลงภู่ผัดฉ่า 
- หอยแมลงภู่ 1/2 ครึ่งกิโลฯ
- น้ำตาลปี๊ป 1/2 ครึ่งช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 1/2 หนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง
- ใบยี่หร่า (ฉีกแบบหยาบๆ) 1/2 ครึ่งถ้วย
- กระเทียม 30 กลีบ
- พริกขี้หนูสวน 25 เม็ด
- ใบมะกรูด (ฉีกแบบหยาบๆ) 2 ใบ
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ซอย 1 ต้น
- พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
  วิธีทำ


1. ล้างหอยให้สะอาด แล้วนำไปแช่ในน้ำพอท่วมหอย ผสมเกลือเล็กน้อย แช่ไว้ 1 ชั่วโมง หอยจะคายสิ่งสกปรกออก นำไปล้างน้ำสะอาดอีกรอบ จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อนให้พอสุกตักพักไว้
2. กระเทียมแกะเปลือกลงโขลก พริกขี้หนูสวนเด็ดก้านทิ้งลงโขลกพร้อมกระเทียม ตามด้วยตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกไทยดำ โขลกให้ละเอียดเข้ากัน
3. ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลางใส่น้ำมัน พอร้อน ตักน้ำพริกที่โขลกไว้ลงผัด ผัดให้หอม จึงใส่เนื้อหอยแมลงภู่ลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลน้ำปลา ผัดให้เขากัน ใส่ใบยี่หร่า เติมน้ำ ผัดให้สุกจนเหลือน้ำขลุกขลิกเป็นใช้ได้

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แกงป่าปลาดุก

แกงป่าปลาดุก

  ส่วนผสมที่ใช้ทำแกงป่าปลาดุก 
- ปลาดุก 4-5ตัว
- กระชาย 20 ราก
- พริกแห้ง 10-12 เม็ด
- ตะไคร้ 2 หัว
- หัวหอมแดง 3 หัว
- กระเทียม 15 กลีบ
- ข่า 5 แว่น
- รากผักชี 3 ราก
- กะปิ 1 ช้อนชา
- ผิวมะกรูด
- น้ำตาลปี๊ป
- น้ำปลา
- ใบกะเพรา
  วิธีทำ
1. พริกแห้ง ผ่าครึ่งเอาเม็ดออก แช่น้ำให้นิ่ม ตะไคร้หั่นฝอย กระเทียมหัวหอมปลอกเปลือกออก ข่า ราก     ผักชี ผิวมะกรูด หั่นฝอย
2. นำทั้งหมดลงโขลกในครก พอหยาบๆ เอากะปิลงโขลกตาม ให้ละเอียด
3. ปลาดุกล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นๆชิ้นหนา พักไว้ กระชายขูดผิวออก หั่นเป็นเส้นฝอย แช่น้ำพักไว้         กะเพราเด็ดเป็นใบๆ ล้างให้สะอาด
4. กระทะตั้งไฟ ใส่น้ำ 1 ถ้วย พอเดือด ตักพริกแกงที๋โขลกไว้ลงผัดไปมาให้หอมไปเจ็ดแปดบ้าน จาก         นั้นเติมน้ำอีก 3 ถ้วย ตามด้วยปลาดุก และกระชายทั้งหมด
5. ปล่อยให้เดือดแรงๆ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป(เล็กน้อย) ชิมรส พอดีแล้วใส่ใบกะเพรา           แล้วยกลง เสิร์ฟร้อนๆ
6. ถ้าชอบทานผัก สามารถใส่ ถั่วฝักยาว(หั่นท่อน) มะเขือ(ผ่าครึ่ง) มะเขือพวง (โดยให้ใส่ไปพร้อมกับ        
     ปลาดุก) ได้เลย

ปลาหมึกทอดกระเทียม

ปลาหมึกทอดกระเทียม

  ส่วนผสมที่ใช้ทำปลาหมึกทอดกระเทียม 
- ปลาหมึกกล้วย 3 ตัว
- พริกไทยขาว(เม็ด) 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1 ถ้วย
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ถ้วย
- เกลือป่น
- ผักชี (เด็ดเป็นใบๆ)
  วิธีทำปลาหมึกทอดกระเทียม  
1. ปลาหมึกดึงหนวดออกจากตัว เอาลูกตา และถุงหมึกออก ล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นแว่นๆ พักให้             สะเด็ดน้ำ
2. พริกไทย ลงโขลกให้พอละเอียด กระเทียมปอกเปลือกพอหยาบๆ เอาลงโขลกกับพริกไทย จากนั้นนำ     ไปคลุกกับปลาหมึกให้เข้ากัน
3. จากนั้นใส่ น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และเกลือป่น(เล็กน้อย) คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วหมัก     พักไว้สักครู่
4. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ตั้งไฟกลางจนน้ำมันร้อนจัด นำปลาหมึกลงทอด ทอดให้เหลืองกรอบ ตักพักขึ้นให้    
สะเด็ดน้ำมัน
5. นำกระเทียมที่เหลือจากการหมัก ลงทอดต่อ ให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
6. จัดปลาหมึกใส่จาน โรยกระเทียมที่ทอดไว้ และผักชี พร้อมเสิร์ฟ

ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ

ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ

  ส่วนผสมที่ใช้ทำไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ 
- ไข่เยี่ยวม้า 3 ฟอง
- ใบกะเพรา 1 1/2 หนึ่งถ้วยครึ่ง
- หมูสับ 1.5 ขีด
- กระเทียม (โขลกพอหยาบ) 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูแดง (โขลกพอหยาบ) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนชา
- ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ถ้วย
- น้ำปลา
- น้ำซุป (หรือน้ำสะอาด)
  วิธีทำไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ
1. ต้มไข่เยี่ยวม้า ในน้ำเดือด ประมาณ 1 นาที ตักขึ้นพักไว้ในน้ำเย็น จากนั้นปอกเปลือกไข่ ผ่าไข่เป็น 4       ซีก
2. ตั้งไฟใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลาง พอร้อน นำใบกะเพราลงทอดให้กรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้น     ใส่ไข่เยี่ยวม้าที่ต้มไว้ลงทอดจนสุก ตักขึ้นพักไว้
3. ตักน้ำมันออกจนเหลือเล็กน้อย ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงเจียวให้หอม เหลืองกรอบ จากนั้นใส่หมู       สับลงผัดให้ทั่วกัน
4. เดิมน้ำซุปเล็กน้อย จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล และน้ำปลาเล็กน้อย     ผัดต่อให้ทั่ว จากนั้นใส่น้ำซุปอีกเล็กน้อย ใส่ไข่เยี่ยวม้าและใบกะเพราที่ทอด (เหลือไว้โรยหน้าเล็ก    
    น้อย) ผัดต่อให้เข้ากัน
5. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบกะเพรากรอบยกเสิร์ฟ

หมูอบซอสมะเขือเทศ

หมูอบซอสมะเขือเทศ

  ส่วนผสมที่ใช้ทำหมูอบซอสมะเขือเทศ
- หมูสันนอก (หั่นเป็นชิ้น ขนาดหนาประมาณ 1 เซนติเมตร) 5 ขีด
- กระเทียม (ปอกเปลือก สับละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- เนย (ชนิดเค็ม) 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาว (บดหยาบๆ) 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/2 ครึ่งช้อนชา
- ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วย
- น้ำซุป 3 ถ้วย
- หัวหอมใหญ่ (หั่นเป็นเสี้ยว) 1/2 ครึ่งหัว
- มะเขือเทศ (หั่นแว่น) 3 ลูก
  วิธีทำ
1. นำหมูไปล้างให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปหมักด้วยกระเทียม พริกไทย เกลือป่น พักไว้           ประมาณ 10-15 นาที
2. กระทะตั้งไฟใส่เนยลงไป นำหมูลงคลุกแป้งสาลีบางๆ แล้วทอดบนเนยให้สุกเหลือง
3. จากนั้นให้ใส่ซอสมะเขือเทศ หอมใหญ่ น้ำซุป ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และมะเขือเทศ
4. เคี่ยวไฟอ่อนจนหมูนุ่มเปื่อยได้ที่ จัดใส่จาน ยกเสิร์ฟ

ขาหมูต้มหน่อไม้จีน

ขาหมูต้มหน่อไม้จีน

   ส่วนผสมที่ใช้ทำขาหมูต้มหน่อไม้จีน
– ขาหมู 2 ขีด
– หน่อไม้จีน 3 ขีด
– พริกไทยเม็ด (โขลกละเอียด) 2 ช้อนชา
– รากผักชี (หั่นละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ
– กระเทียม (สับหยาบๆ) 1 ช้อนโต๊ะ
– เห็ดหอมแห้ง (แช่น้ำจนนุ่ม หั่นเป็นชิ้นๆ) 6 ดอก
– เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
– ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำเปล่า 5 ถ้วย
– น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
– ผักชี
   วิธีทำ
1. ล้างขาหมูให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. หน่อไม้จีนล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. พริกไทย กระเทียม รากผักชี โขลกรวมกัน แล้วนำไปเจียวกับน้ำมันพืชให้หอมไปแปดบ้าน4. จากนั้น     ใส่ขาหมูลงผัดตาม โรยด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว ผัดให้เข้ากัน ตักทั้งหมดใส่หม้อต้ม เติมน้ำเปล่า 5 ถ้วย     ตั้งไฟเคี่ยวต่อ
5. เริ่มร้อนใส่หน่อไม้จีน เห็ดหอม เคี่ยวไปเรื่อยๆไฟอ่อนๆ จนขาหมูเปื่อยดี แล้วให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ป     ชิมรสให้ออกเค็มนำ หวานตามอ่อนๆ เป็นอันใช้ได้
6. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชี ยกเสิร์ฟร้อนๆ

ยำตะไคร้กุ้งสด

ยำตะไคร้กุ้งสด

  ส่วนผสมที่ใช้ทำยำตะไคร้กุ้งสด
– กุ้งซีแฮ (เด็ดหัวแกะเปลือกผ่าหลังชักไส้ออก) 7 ตัว
– ตะไคร้ (ซอยบางๆ) 1/2 ครึ่งถ้วย
– หอมแดง (ซอยบางๆ) 1/2 ครึ่งถ้วย
– พริกขี้หนู (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 1 1/2 หนึ่งถ้วยครึ่ง
– กุ้งแห้ง (ทอด) 2 ช้อนโต๊ะ
– ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
– ผักกาดหอม (สำหรับรองจาน)
   วิธีทำ
1. กุ้งซีแฮ นำไปลวกในน้ำร้อนให้สุก ตักขึ้นพักไว้
2. ผสมน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว คนให้เข้ากันในอ่างผสม ชิมรสให้ออกเปรี้ยวนำ เค็มตาม และหวาน         นิดๆ
3. จากนั้นใส่ตะไคร้ หอมแดง พริกขี้หนู และกุ้งที่ลวกไว้ในอ่างผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. แล้วใส่กุ้งแห้งทอด ถั่วลิสงคั่ว คลุกให้พอทั่วกัน ตักใส่จานที่รองด้วยผัดกาดหอม ยกเสิร์ฟ

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

  ส่วนผสมที่ใช้ทำปลาหมึกผัดไข่เค็ม 
- ปลาหมึกกล้วย 2 ตัว
- ไข่แดงไข่เค็ม (ดิบ) 2 ฟอง
- กระเทียม (โขลกพอหยาบ) 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
- ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันน้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย (ป่น) 1 ช้อนชา
- พริกชี้ฟ้า (หั่นเฉียง) 2 เม็ด
- ต้นหอม (หั่นท่อนประมาณ 1 นิ้ว) 2 ต้น
  วิธีทำ
1. ล้างปลาหมึก ดึงหัวออก ตัวปลาหมึกลอกเอาเยื่อหุ้มตัวออก จนเหลือแต่เนื้อขาว ดึงกระดองออก บั้ง      เป็นตารางแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ล้างให้สะอาดอีกครั้ง ใส่จานพักไว้
2. ตั้งกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันจนร้อน นำกระเทียมลงเจียวให้เหลืองหอม จากนั้นใส่ไข่เค็มลงผัด     ยีให้ละเอียด ทั่วกัน
3. เติมน้ำมันน้ำพริกเผา ปลาหมึก จากนี้เร่งไฟให้แรง ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันจนปลาหมึกสุก
4. จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาล ซอสปรุงรส พริกไทย ผงกะหรี่ ผัดให้เข้ากัน สุดท้ายใส่พริกชี้ฟ้า ต้นหอม      
     ผัดพอให้เข้ากัน ตักใส่จานยกเสิร์ฟ

ไก่ทอดน้ำปลา

ไก่ทอดน้ำปลา
  ส่วนผสมที่ใช้ทำไก่ทอดน้ำปลา
- ปีกบนไก่ 5 ขีด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ถ้วย

  วิธีทำอาหารไก่ทอดน้ำปลา 

1. ปีกไก่บน ผ่าครึ่ง ล้างให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง ตั้งพักไว้
2. ผสมน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย แป้งมันสำปะหลัง น้ำเย็น ในอ่างผสมแล้วคนให้เข้ากัน
3. นำไก่ลงไปคลุกในส่วนผสมเบาๆ ให้ทั่วทุกด้าน ใช้พลาสสิคหุ้มอาหาร คลุมไว้แล้วนำไปแช่เย็น 2           ชั่วโมง
4. กระทะใส่น้ำมัน ตั้งไฟปานกลาง พอร้อนนำไก่ลงทอด ให้สุกเหลืองทอง ทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักให้        
     สะเด็ดน้ำมัน ตักใส่จานยกเสิร์ฟทานเปล่าๆหรือจิ้มกับน้ำจิ้มไก่

ปลาดุกฟูผัดขี้เมา

ปลาดุกฟูผัดขี้เมา

   ส่วนผสมที่ใช้ทำปลาดุกฟูผัดขี้เมา 
– ปลาดุกย่าง 2 ตัว
– น้ำมันพืช 3 ถ้วย
– กระเพรา (เด็ดใบ) 1 ถ้วย
– น้ำปลา 3 ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
– กระเทียมสับ (หยาบๆ) 1/2 ครึ่งถ้วย
– พริกขี้หนูแดงสับ 3 ช้อนโต๊ะ
   วิธีทำอาหารปลาดุกฟูผัดขี้เมา
1. ปลาดุก ลอกหนังออกให้หมด แกะเนื้อออกมาสับให้ละเอียด นำไปผึ่งให้เนื้อปลาแห้งหมาดๆ
2. นำน้ำปลา น้ำตาล และน้ำเปล่า (หรือน้ำซุปหมู ใส่เล็กน้อย) ผสมเข้าด้วยกัน
3. ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพอร้อน นำใบกระเพราลงทอดให้กรอบ ตักขึ้นพักไว้
4. นำเนื้อปลาดุกลงทอดต่อ จนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน5. นำน้ำมันออกจนหมด แล้วนำ     กระเทียมสับและพริกขี้หนูแดงสับ ลงคั่วให้หอม ใส่ปลาดุกฟู ราดน้ำ ที่เตรียมไว้ให้ทั่ว เร่งเป็นไฟแรง     ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
6. ใส่ใบกระเพราที่ทอดไว้ส่วนนึง ผัดให้ทั่วเข้ากันดีแล้ว ตักขึ้นใส่จานโรยหน้าด้วยใบกระเพราที่เหลือ         ยกเสิร์ฟ

ผัดเผ็ดหมูป่า

ผัดเผ็ดหมูป่า
  ส่วนผสมที่ใช้ทำผัดเผ็ดหมูป่า 

– เนื้อหมูป่า 5 ขีด
– น้ำพริกแกงป่า 1/2 ครึ่งถ้วย
– พริกขี้หนูสีแดง (ทุบสับละเอียด) 15 เม็ด
– พริกชี้ฟ้าเหลือง (หั่นเฉียง) 3 เม็ด
– กระชาย (ซอย) 1 ถ้วย
– น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 1/2 หนึ่งช้อนชาครึ่ง
– เกลือ 1 ช้อนชา
– หัวกะทิ 1/2 ครึ่งถ้วย
– พริกไทยอ่อน (หี่นเป็นท่อนสั้น) 2 ช้อนโต๊ะ
– ใบโหระพา 1/2 ครึ่งถ้วย
– น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

   วิธีทำ

1. เนื้อหมูป่านำไปล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆบางพอดีคำ แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันใช้ไฟกลาง พอเริ่มร้อน นำพริงแกงลงผัด จนแตกมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูป่าและพริก     ขี้หนูลงผัดพร้อมกัน ผัดต่อสักครู่

3. พอเนื้อหมูเริ่มสุก ใส่กระชาย แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ และน้ำตาล ผัดต่อให้เข้ากัน จึงใส่หัวกระทิ     ผัดต่อให้พอมีน้ำขลุกขลิก

4. ได้ที่แล้วใส่พริกไทยอ่อน พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา ผัดอีกครั้งพอทั่ว ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบโหระพา       ยกเสิร์ฟ

แหนมกระดูกอ่อน

แหนมกระดูกอ่อน

  ส่วนผสมที่ใช้ทำแหนมกระดูกอ่อน 
- กระดูกอ่อน (บริเวณชายโครง) 3 ขีด
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- กระเทียม (โขลก) 2 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวเหนียว (นึ่งสุก) 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ถ้วย
- ผักชี (เด็ดใบ)
   วิธีทำแหนมกระดูกอ่อน
1. นำกระดูกหมูไปล้าง สับเป็นชิ้นเล็ก แล้วนำไปคลุกเคล้ากับเกลือและกระเทียม ให้เข้ากัน
2. ล้างข้าวเหนียว พักในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับหมูที่ผสมไว้ให้ทั่วกัน
2. ล้างข้าวเหนียว พักในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับหมูที่ผสมไว้ให้ทั่วกัน3. จากนั้นตัก     ใส่ถุงพลาสติก 2 ถุง มัดปากถุงให้แน่น นำไปตากแดดร้อนๆ แล้วทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นจึงเก็บไว้ในตู้         เย็น
4. เมื่อจะรับประทาน นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน นำกระดูกหมูลงทอดให้สุก           เหลือง จึงตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
5. จัดแหนมกระดูกอ่อนใส่จาน โรยหน้าด้วยใบผักชี เสิร์ฟกับเครื่องเคียง ได้แก่ พริกขี้หนูซอย,                   ถั่วลิสงคั่ว  ขิ่งอ่อนหั่นแว่น  ต้นหอม

แกงหมูเทโพ


         แกงหมูเทโพ เป็นแกงไทยที่มีมาช้านาน รสชาติจะออก เปรี้ยว เค็ม หวานมัน รับประทานร้อนๆยิ่งอร่อย และอุดมไปด้วยสรรพคุณจากสมุนไพรต่างๆมากมาย ทั้งยังทำง่าย เพราะสามารถใช้เครื่องแกง หรือกะทิแบบสำเร็จได้เลย 
  ส่วนผสมที่ใช้ทำแกงหมูเทโพ 
- หมูสามชั้น (เลือกที่มันน้อย) 3 ขีด
- น้ำพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูป 1 ซอง
- มะกรูด (ลูกใหญ่) 1 ลูก
- ผักบุ้ง (ท่อนอวบๆ หั่นท่อสั้น ประมาณ 1 นิ้ว ล้างให้สะอาด) 4 ถ้วย
- น้ำกะทิ (สำเร็จรูป) 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊ป 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
   วิธีทำแกงหมูเทโพ
1. ล้างหมูให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ตั้งพักไว้  
2. ตั้งหม้อ ใช้ไฟอ่อน ใส่กะทิลงไป เคี่ยวไปเรื่อยพอกะทิเดือด ใส่เครื่องแกงเผ็ดลงไป เคี่ยวไฟอ่อนไป       เรื่อยๆ จนพริกแกงหอม
3. ใส่หมูสามชั้นลงไป เคี่ยวจนมันหมูแตกออกมา ความหอมของพริกแกงจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น
4. มะกรูด ผ่าสี่ซีก เอาเม็ดออก ใส่ลงไปเคี่ยวในหม้อ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก พอเดือดใส่น้ำตาลปี๊ป           น้ำปลา คนให้เข้ากัน ปิดฝาหม้อ
5. พอเดือดแล้ว ชิมรสดู ให้ออก เปรี้ยว เค็ม หวาน ได้ที่แล้ว ปิดฝารอเดือดอีกครั้งเป็นอันเสร็จ ตักใส่         ถ้วยยกเสิร์ฟรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

ยำปลาดุกฟู

ยำปลาดุกฟู
   ส่วนผสมที่ใช้ทำยำปลาดุกฟู
– ปลาดุกย่าง 2 ตัว
– เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (หรือถั่วลิสงคั่ว) 1/2 ครึ่งถ้วย
– น้ำมันพืช 2 ถ้วย
– น้ำตาลปี๊ป 1 1/2 หนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง
– น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
– หอมแดงซอย 3 หัว
– พริกขี้หนู (สับ) 10 เม็ด
– มะม่วงเปรี้ยว (สับหั่นฝอย) 1/2 ครึ่งถ้วย
– ใบผักชี
    วิธีทำ
1. ปลาดุกย่าง แกะเนื้อ ลอกหนัง และก้างออก สับให้ละเอียด นำไปผึ่งให้แห้ง
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟลาง พอร้อนนำเนื้อปลาลงทอด ลดไฟอ่อน ทอดต่อ จนเหลืองทองทั่วกัน ตักยกขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ลงมือทำน้ำยำ โดยการนำน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว มาผสมกันลงในถ้วย คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่หอมแดง พริกขี้หนู และมะม่วงเปรี้ยว


ตับทอดกระเทียม

ตับทอดกระเทียม
        ตับอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบี ต่างๆ และรวมไปถึงธาตุเหล็กอีกด้วย ผสมกับกระเทียมที่มีประโยชน์อีกเพียบ
   ส่วนผสมที่ใช้ทำตับทอดกระเทียม
– ตับหมู 5 ขีด
– กระเทียม 1 ขีด
– น้ำปลา 2 ช้อนชา
– ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันพืช 1 1/2 หนึ่งถ้วยครึ่ง
– ผักชี (เด็ดเป็นใบ)
   วิธีทำ   
1. ล้างตับหมูให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นหนา พอดีคำ 
2. นำพริกไทยเม็ดลงโขลก จนละเอียด กระเทียมบุบเอาเปลือกออก แล้วเอาลงโขลกต่อกับพริกไทย         เสด็จแล้วนำไปคลุกกับตับหมูที่เตรียมไว้
3. ใส่เครื่องปรุงลงไป น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำปลา เคล้าให้เข้ากันจนทั่ว ตั้งพักไว้ 15 นาที
4. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลาง พอร้อนใส่คีบตับหมูลงทอด ทอดจนสุกนุ่มตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
5. จากนั้นใส่กระเทียมที่หมักกับตับหมูลงทอดต่อจนเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
6. จัดตับใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมทอด ตกแต่งด้วยใบผักชี ยกเสิร์ฟ

ต้มโคล้งปลากรอบ

ต้มโคล้งปลากรอบ
     ต้มโคล้งเป็นอาหารไทยทำนองเดียวกับต้มยำ อร่อยพอๆกัน เพราะแซ่บและรสจัดพอๆกัน เพียงแต่ใช้น้ำมะขามแทนมะนาว (เปรี่ยวอมหวาน) ใช้พริกแห้งแทนพริกสด และที่สำคัญสรรพคุณหลากหลาย เช่น "แก้ไข้ ระบายท้อง บำรุงสายตา เจริญอาหาร" ::
  ส่วนผสมที่ใช้ทำต้มโคล้งปลากรอบ
- ปลากรอบ (ปลาเนื้ออ่อนรมควัน) 3 ตัว
- หอมแดง 5 หัว
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 3 เม็ด
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ (ทุบพอแตก หั่นท่อนสั้นๆ) 1 ต้น
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ข่าอ่อน (หั่นเป็นแว่นบางๆ) 10 ชิ้น
- ใบมะขามอ่อน 1/2 ครึ่งถ้วย
  วิธีทำ
1. นำปลากรอบไปย่างไฟให้ร้อน แล้วแกะเป็นชิ้นๆ นำหอมแดงไปย่างไฟให้หอม ปอกเปลือกออก แล้วทุบให้พอแตก นำพริกแห้งไปย่างไฟให้หอม แล้วสับเป็นท่อนสั้นๆ
2. ตั้งเตาใช้ไฟแรง ใส่น้ำลงในหม้อ 2 ถ้วย พอน้ำเดือดใส่ปลากรอบ หอมแดง น้ำมะขามเปียก ตะไคร้ ข่าอ่อน ใบมะขามอ่อน
3. พอน้ำเดือดอีกครั้ง ใส่น้ำปลา น้ำตาลทรายลงไป คมให้เข้ากัน ชิมรสดูให้ออก เปรี้ยว เค็ม หวานตามเล็กน้อย

ยำถั่วพู

ยำถั่วพู
  ส่วนผสมที่ใช้ทำยำถั่วพู
- ถั่วพู (นำไปซอยแล้วแช่ในน้ำเย็น) 1 ถ้วย
- มะพร้าวขูด 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- กุ๊งแช่บ๊วย (เด็ดหัว แกะเปลือก ผ่าหลังชักไส้ออก) 5 ตัว
- ปลาหมึกกล้วย (หั่นเป็นชิ้น) 1 ตัว
- หมูสับ (รวนให้สุก) 1/4 ถ้วย
- พริกขี้หนู (ซอย) 7 เม็ด
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง (ซอย) 3 หัว
- ถั่วลิสง (คั่ว) 1/4 ถ้วย
- หัวกะทิ 1/2 ครึ่งถ้วย
  วิธีทำ
1. คั่วมะพร้าวขูดในกระทะ ใช้ไฟอ่อน จนเหลืองอ่อนๆ ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป คั่วต่อจนหอมเหลืองกรอบ ตักพักไว้
2. ต้มน้ำให้เดือด นำกุ้งและปลาหมึกลงไปลวกให้สุกดี
3. นำกุ้ง ปลาหมึกใส่ลงในอ่างผสม ตามด้วยถั่วพู หมูสับรวน น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนู น้ำพริกเผา หอมแดง ถั่วลิสง และสุดท้ายหัวกะทิ
4. จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน พอเข้ากันแล้วใส่มะพร้าวที่เราคั่วไว้ลงไป แล้วคลุกเคล้าอีกทีให้เข้ากัน ตักใส่จาน ยกเสิร์ฟ

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560

ขาหมูตุ๋นน้ำแดง

ขาหมูตุ๋นน้ำแดง
  ส่วนผสมที่ใช้ทำขาหมูตุ๋นน้ำแดง 
- ขาหมู 1 ขา
- พริกไทย (ทุบพอแตก) 20 เม็ด
- รากผักชี 7 ราก
- ซีอิ๊วดำ 1 1/2 หนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 2 ช้อนชา
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- โป๊ยกั๊ก (ดอกจันทร์) 2 ดอก
- อบเชย (ยาว 1 นิ้ว)
- สุรา (ไทย) 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 15 กลีบ
- ผักกาดดอง 1 ต้น
- ผักคะน้า
- ผักชี
  วิธีทำ
1. ขาหมู ถ้ามีขนให้ใช้ไฟแรงๆ เผาให้ขนไหม้ไปให้หมด แล้วขูดดำๆออกให้ขาว แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด2. นำขาหมูไปใส่หม้อ ใส่เครื่องทุกอย่างลงไป ยกเว้น กระเทียม ผักกาดดอง ผักชี ปิดฝา คอยช้อนฟองออก พอเดือดมากฟองน้อยลง ลดไฟลง เคี่ยวต่อจนขาหมูเปื่อย
3. นำผักกาดดองมาดึงออกให้เป็นกาบๆ นำไปล้างน้ำสะอาดเพื่อลดเปรี้ยวออก แล้วนำไปใส่หม้อขาหมู ผักคะน้าล้งน้ำให้สะอาด นำลงไปต้มพร้อมผักกาดดองและขาหมู จนเปื่อยทั้งหมูและผัก เหลือน้ำพอขลุกคลิก
4. ตอนเสิร์ฟให้เลาะกระดูกขาออก หั่นสขาหมูเป็นชิ้นๆ จัดวางใส่จานทั้งเนื้อหนังและเอ็น ผักกาดดองหั่นซอยวางข้างๆ ตักน้ำราด โรยหน้าด้วยผักชีเด็ดเป็นใบ รับพระทานพร้อมน้ำจิ้ม และกระเทียม
  วิธีทำน้ำจิ้ม พริกชี้ฟ้าเหลือง (หรือแดง) กระเทียม เกลือ โขลกรวมกันให้ละเอียด แล้วนำไปผสมกับน้ำส้มสายชู เป็นอันใช้ได้

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

ต้มยำโป๊ะแตก

  ต้มยำโป๊ะแตก
    ต้มยำโป๊ะแตกเป็นอาหารทะเลรสจัด อุดมไปด้วยสมุนไพรมีประโยชน์ คล้ายต้มยำแต่ "โป๊ะแตก" จะมีใบกระเพราเพื่อเพิ่มความจัดจ้านเข้าไปอีก อุดมไปด้วยอาหารทะเลทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ยิ่งรับประทานในหม้อไฟร้อนๆเดือดตลอดยิ่งดี ::
  ส่วนผสมที่ใช้ทำต้มยำโป๊ะแตก
- ปูม้า (เอากระดองออก สับเป็นชิ้นๆ) 1 ตัว
- เนื้อปลากระพงแดง (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 5 ชิ้น
- ปลาหมึก (หั่นเป็นวงๆ) 2 ตัว
- หอยแมลงภู่ 5 ตัว
- กุ้งแช่บ๊วย (แกะเปลือก เด็ดหัว ผ่าหลังชักไส้ออก) 5 ตัว
- ตะไคร้ (ทุบพอแตก ตัดเป็นท่อนสั้นๆ) 2 ต้น
- ใบกะเพรา 2 ยอด
- ใบยี่หร่า 2 ยอด
- ใบมะกรูด (ฉีกเป็นใบๆหยาบๆ) 5 ใบ
- ข่า (หั่นเป็นแว่น) 7 แว่น
- พริกขี้หนูสวน (ทุบพอแตก) 15 เม็ด
- น้ำมะนาว (คั้นจากมะนาวลูกใหญ่) 1 ลูก
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 
   วิธีทำ
 1. ใส่น้ำในหม้อ 3 ถ้วย ตั้งไฟแรง น้ำเดือดแล้วใส่ ตะไคร้ ข่า ลงไปรอ
 2. ให้เริ่มเดือดอีกครั้ง ใส่ปูม้า เนื้อปลากระพง ตามด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนูสวนลงไป            3. พอน้ำเดือดอีกครั้งใส่ ใบมะกรูด ใบกะเพรา ใบยี่หร่า คนให้เข้ากันแล้วชิมรส ให้ออกเปรี้ยว เค็ม เผ็ด4. รสได้ที่แล้ว ใส่ปลาหมึก หอยแมงภู่ และกุ้ง แล้วปิดฝาหม้อสักพัก ยกลงได้เลย ตักใส่ถ้วยยกเสิร์ฟรับประทานร้อนๆ